สำหรับกติกาฟุตบอลในปัจจุบันนี้มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เพื่อตอบรับกับรูปแบบการเล่นในสนาม ของกีฬาฟุตบอลในปัจจุบัน ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงกติกาแต่ก็ยังคงไว้ที่ 17 ข้อตามเดิม ดังนี้
สนามต้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความยาวไม่ต่ำกว่า 90 เมตร (100 หลา) และไม่เกินกว่า 120 เมตร (130 หลา) มีความกว้างไม่ต่ำกว่า 45 เมตร (50 หลา) และสูงสุด 90 เมตร (100 หลา) และมีเส้นสนามเป็นสีขาวทั้งหมด มีองค์ประกอบของสนามดังนี้
บอลต้องเป็นทรงกลม ท่าจากหนังหรือวัสดุอื่นๆ ที่เหมาะสมไม่เป็นอันตรายต่อผู้เล่น มีเส้นรอบวงไม่เกินกว่า 70 เซนติเมตร (28 นิ้ว) ไม่น้อยกว่า 68 เซนติเมตร (27 นิ้ว)
โดยผู้เล่น 2 ทีม แต่ละทีมประกอบด้วยผู้เล่นไม่เกิน 11 คน และต้องมีคนหนึ่งเป็นผู้รักษาประตู ถ้าหากผู้เล่นทีมใดน้อยกว่า 7 คน จะไม่อนุญาตให้ทีมทำการแข่งขัน
การเปลี่ยนตัว ผู้เล่นต้องออกจากสนาม ด้วยการเดินออกจากสนาม ในฝั่งที่ใกล้ที่สุด ไม่จำเป็นต้องเดินมาเปลี่ยนตัว ณ เส้นกึ่งกลางสนาม บริเวณจุดยืนของผู้ตัดสินที่ 4 หากผู้เล่นปฏิเสธจะออกจากสนาม ให้ดำเนินการแข่งขันต่อไปทันที
ผู้รักษาประตูแต่ละทีมต้องสวมชุดทีมีสีแตกต่างจากผู้เล่นคนอื่นๆ รวมทั้งผู้ตัดสิน อุปกรณ์ของผู้เล่นที่เป็นข้องบังคับเบื้องต้น คือ
1. เสื้อยืดหรือเสื้อเชิ้ต
2. กางเกงขาสั้น ถ้าใส่กางเกงปรับอุณหภูมิต้องไว้ภายใน และมีสีเหมือนกางเกงชั้นนอก
3. ถุงเท้ายาว
4. สนับแข้ง ต้องใส่อยู่ภายใต้ถุงเท้า
5. รองเท้า
ผู้ตัดสิน มีอำนาจหน้าที่อย่างเต็มที่ในการปฏิบัติให้เป็นไปตามกติกาการแข่งขัน
ในกรณีที่ไม่สามารถระบุตัวตน ผู้กระทำผิดได้ว่าเป็นใคร หัวหน้าผู้ฝึกสอน ในเขตเทคนิค จะต้องรับโทษแทน
ผู้ช่วยผู้ตัดสิน 2 คน ต้องเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่โดยเป็นผู้ชี้แนะ แสดงให้ผู้ตัดสินทราบสิ่งต่างๆ ส่วนการตัดสินในเป็นหน้าที่ของผู้ตัดสิน
ฟุตบอลมี 2 ช่วงเวลาด้วยกันคือครึ่งแรก และครึ่งหลัง แต่ละครึ่งมีเวลา 45 นาทีโดยไม่รวมการทดเวลาและพักครึ่งได้ไม่เกิน 15 นาที มีการเพิ่มเติมช่วงพัก 2 ครั้งคือ
การเสี่ยงเหรียญ ทีมที่ชนะการเสี่ยงจะเป็นฝ่ายเลือกประตูที่จะทำการรุกในครึ่งเวลาแรกของการแข่งขัน อีกทีมจะเป็นฝ่ายได้เตะเริ่มเล่น (Kick-off) เพื่อเริ่มต้นการแข่งขัน ทีมที่ชนะการเสี่ยงจะทำการเตะเริ่มเล่นเพื่อเริ่มต้น การแข่งขันในครึ่งเวลาหลังของการแข่งขัน ทั้งสองทีมจะเปลี่ยนแดนกันในครึ่งเวลาหลังของการแข่งขัน และท่าการรุก
ประตูตรงข้าม
ลูกบอลจะอยู่นอกการเล่นเมื่อลูกบอลได้ผ่านเส้นประตูหรือเส้นข้างออกไปหมดทั้งลูก และเมื่อผู้ตัดสินสั่งหยุดเกม
การนับประตูหรือการนับคะแนน ในการยิงเข้า 1 ลูกให้นับได้ว่าคือ 1 แต้ม จะได้ประตูเมื่อลูกบอลทั้งลูกได้ผ่านเส้นประตู ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องไม่มีการกระทำผิดกติกาการแข่งขันเกิดขึ้นก่อนที่ทีมนั้นจะทำประตูได้
ตำแหน่งล้ำหน้า คือ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายฝ่ายรุก (ยกเว้นมือและแขน) อยู่เหนือว่าผู้เล่นตัวสุดท้ายของผู้เล่นฝ่ายรับ เมื่อกรรมการตัดสินให้เป็นลูกล้ำหน้า กรรมการจะให้ฝ่ายรับเล่นลูกตั้งเตะจากบริเวณที่ล้ำหน้า
ผู้เล่นได้ได้รับการคาดโทษ 3 แบบคือ ตักเตือน, ใบเหลือง และใบแดง หากผู้เล่นกระทำผิดตามความผิดข้อหนึ่งข้อใดต่อไปนี้ โดยผู้ตัดสินพิจารณาเห็นว่าขาดความระมัดระวัง ไม่ไตร่ตรองยั้งคิด หรือ ใช้กำลังแรงเกินกว่าเหตุ จะให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยตรง ได้แก่
การเตะโทษมีทั้งโทษโดยตรง และโทษโดยอ้อม
การเตะโทษโดยตรง
การเตะโทษโดยอ้อม
การเตะลูกโทษ ณ จุดโทษ เป็นการทำผิดกติกาของทีมฝ่ายรับในกรอบเขตโทษของตนเอง ในขณะที่ลูกบอลอยู่ในการเล่น สามารถทำประตูได้โดยตรงจากการเตะจุดโทษ
การทุ่ม เป็นวิธีการอย่างหนึ่งของการเริ่มเล่นใหม่ เมื่อฝ่ายตรงข้ามทำบอลออกเส้นข้างสนาม
การทุ่มที่ถูกต้อง
1. หันหน้าเข้าสนาม มือทั้งสองข้างจับลูกฟุตบอล
2. ส่วนเท้าทั้งสองข้างอยู่บนเส้น หรือบนสนามนอกเส้นข้าง
3. ใช้มือทั้งสองข้าง ปล่อยลูกบอลจากด้านหลัง ผ่านศีรษะ และปล่อยบอลออกจากมือพร้อมกัน โดยเท้าทั้งสองข้างจะต้องสัมผัสพื้นอยู่
การเตะจากประตู โกลคิก คือ เป็นวิธีการอย่างหนึ่งของการเริ่มเล่นใหม่ด้วยการเตะจากเขตประตู จากการที่ฝ่ายตรงข้ามทำบอลออกหลัง การเตะจากประตูสามารถทำประตูโดยได้เลย
เกิดขึ้นเมื่อลูกบอลทั้งลูกได้ผ่านเส้นประตูออกไปยังนอกสนาม ไม่ว่าจะกลิ้งหรือลอยออกไปนอกสนามก็ตาม โดยผู้รักษาประตูเป็นคนสัมผัสบอลคนสุดท้ายก่อนลูกออก เมื่อได้ลูกเตะมุมผู้เตะต้องตั้งบอลในเขตเตะมุม ใกล้กับธงมุมและเมื่อเตะลูกออกจะต้องไม่ทำให้ธงเคลื่อนที่ ในการเตะมุมถ้าเตะทีเดียวแล้วลูกเข้าประตูให้นับว่าเป็นประตู ผู้เล่นฝั่งตรงข้ามกับผู้เตะมุมจะเข้าใกล้ผู้เตะมุมน้อยกว่า 10 หลาไม่ได้นอกจากผู้เตะจะเตะลูกไปไกลแล้วอย่างน้อยเท่ากับระยะรอบวงของลูกจึงจะเริ่มเล่นต่อไปได้ และจะเล่นลูกนั้นซ้ำไม่ได้จนกว่าลูกนั้นจะถูกตัวของผู้เล่นคนใดคนหนึ่งก่อน