ไมเคิล คาร์ริค Michael Carrick
คาร์ริค เริ่มต้นเล่นฟุตบอลให้สโมสรแรกคือสโมสรวอลล์เซนต์ คลับที่เป็นสโมสรที่สรา้งนักเตะเก่งๆ มาหลายคน และในช่วงปี 1998 เขาก็ได้เข้ามาเล่นกับเวสต์แฮม แต่เมื่อถึงปี 1999 – 2000 คาร์ริคก็ถูกยืมตัวไปอยู่สวินดอน ทาวน์ และในฤดูกาลต่อมาก็ถูกยืมตัวไปเบอร์มิงฉฮม ซิตี้ วึ่งเขาแสดงผลงานได้ดีมาก ในช่วงปี 2000 – 2001 เขาจึงได้รับการเสนอชื่อเข้าท้าชิงรางวัลนักเตะดาวรุ่งแห่งปีของสมาคมฟุตบอลอาชีพ แต่เขาก็ต้องพลาดให้กับสตีเว่น เจอร์ราร์ดจากลิเวอร์พูล
ในช่วงปี 2002 – 2003 คาร์ริคใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการพักรักษาอาการบาดเจ็บ และในที่สุดเวสต์ แฮมก็ตกชั้นไปในที่สุดเมื่อจบฤดูกาล แต่คาร์ริคก็ไม่ได้ย้ายไปทีมอื่นเหมือนเพื่อนร่วมทีมหลายคน และเขาก้ได้กลับมาลงเล่นในฤดูกาลแรกของดิวิชั่น 1 แต่เวสต์ แฮมก็พลาดในการเลื่อนชั้นไปสู่พรีเมียร์ชิพในนัดชิงชนะเลิศเพลย์ออฟ แต่เนื่องด้วยคาร์ริคต้องการกลับเข้าไปเล่นในพรีมเยีร์ชิพ เขาจึงย้ายไปอยู่กับสเปอร์ส ในช่วงปี 2004 ด้วยค่าตัว 2.75 ล้านปอนด์
หลังจากที่คาร์ริคย้ายทีมก็แสดงถึงความสามารถที่ดีหลายอย่างไม่ว่าจะการจ่ายบอล ไหวพริบของเขาในการเล่น ทำให้เขาเป็นกองกลางที่ดีมาก และสุดท้ายเขาก็ไปอยู่กับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในที่สุด
หลังจากนั้นคาร์ริคยังได้ลงเล่นทีมชาติอังกฤษชุดอายุต่ำกว่า 21 ปีไปแล้ว 14 ครั้ง คาร์ริคก็ยังได้รับโอกาสติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2001 โดยเขาได้เป็นตัวสำรองในช่วงพักครึ่งในเกมที่เอาชนะทีมเม็กซิโกได้ 4 – 0 และเขายังเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติอังกฤษชุดฟุตบอลโลกปี 2006 และเขาก็ได้แสดงถึงความสามารถในการลงเล่ที่สูงมากด้วยฟอร์มการเล่นแบบใจเย็นในเกมที่เอาชนะทีมชาติจากเอกวาดอร์ซึ่งเขาเป็นคนที่ได้รับหน้าที่ให้คุมจังหวะของเกม
ในการอยู่กับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้น คาร์ริคได้รับสืบทอดเสื้อเบอร์ 16 วึ่งเป็นเบอร์เดิมของรอย คีน แต่เขาก็มีรุปแบบการเล่นที่แตกต่างจากอดีตกัปตันทีม แต่เขาก็มีความคล่องตัว การจ่ายบอล และความสามารถในการครองบอลที่ดีมากจึงทำให้เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญของทีม