ผู้รักษาประตูนั้นมีหน้าที่หลักในการปกป้องประตูไม่ให้ถูกยิงจากฝ่ายตรงข้ามนะครับ วิธีในการปกป้องประตูนั้นก็มีหลากหลายวิธีด้วยกันดังนี้
การตัดบอล
เมื่อฝ่ายตรงข้ามวิ่งมาจนมีความห่างประมาณ 2 – 3 ก้าว ก็ให้ทิ้งตัวเหยียดแขนออกไปหาบอล เพื่อบล็อคไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามที่บุกมานั้นยิงประตูได้ และต้องเกร็งมือกับแขนให้มั่น งอข้อศอกเล็กน้อยเพื่อรับแรงกระแทกที่บอลพุ่งเข้าหาตัว ส่วนใหญ่มักจะพลาดในช่วงขั้นตอนนี้เมื่อมืออยู่ใกล้ตัวมากเกินไปทำให้เกิดบาดเจ็บ หรือเกร็งตัว ไหล่ แขน และมือน้อยจนเกินไปทำให้บาดเจ็บได้
การปัดบอลลูกสูง
เมื่อบอลพุ่งเข้ามาทางด้านบน ให้เหนียดแขนออกไปพอกะให้มืออยู่หลังลูกบอล ในช่วงที่มือแตะบอลให้ส่งแรงไปที่มือเป็นช่งสั้นๆ เพื่อดีดลูกบอลให้เปลี่ยนทิศทางอย่างฉับพลันปัดลูกบอลออกไปด้วยฝ่ามือไปทางด้านข้าง นอกจากนี้อย่าลืมเกร็งตัวขณะปัดเพื่อให้มีแรงส่งไปยังลูกบอล สิ่งที่หลายคนมักพลาดคือตอนปัดมือไม่อยู่หลังบอล แต่อยู่ด้านข้างทำให้แรงปัดไม่พอหรือปัดพลาดไปชนเสาเข้าประตูตัวเอง หรือใช้ปลายนิ้วปัดบอลทำให้ไม่มีแรงปัดมากพอ ปัดบอลไปด้านหน้าก็ไม่ดีเช่นกันเพราะมีคนรอซ้ำเข้าประตู ขาข้างที่เหยียดไม่เหยียดทำให้ระยะการปัดไม่ถึงและไม่แรงมากพอ
ปัดบอลที่พุ่งเข้ามาให้ข้ามคาน
ให้ทำการเปลี่ยนทิศทางของลูกบอลที่พุ่งเข้ามาด้วยฝ่ามือหรือนิ้วมือตอนปัดเพื่อให้บอลข้ามคาน โดยต้องเกร็งฝ่ามือด้วย และต้องเหยียดลำตัวให้เต็มที่ขณะปัดบอล เมื่อบอลจะกระทบมือต้องส่งแรงไปที่บอลให้มากพอเพื่อเปลี่ยนทิศทางให้ไปตามที่ต้องการนั่นคือให้บอลข้ามคาน หลายคนมักพลาดตรงที่ยื่นมือไปขวางทางบอลเฉยๆ โดยไม่กำหนดแรงและทิศทางทำให้บอลกระเด็นไปด้านหน้าประตูแล้วโดนคนซ้ำเข้าประตู หรือนิ้วมือไม่เหยียดให้เต็มที่
การปัดบอลในระดับพื้น
ตอนจะปัดบอลมือต้องอยู่หลังบอล จังหวะที่มือกำลังสัมผัสกับบอลให้ส่งแรงออกไปด้วยเป็นช่วงสั้นๆ ด้วยการเหยียดแขน เพื่อผลักบอลให้เปลี่ยนทิศทางไปตามที่กำหนด ปัดบอลต้องใช้ฝ่ามือในการปัดและปัดไปทางด้านข้าง มือที่ใช้ในการปัดบอลควรเป็นมือล่างมือบนให้ประคองลูกไว้เฉยๆ เพื่อให้ปัดถนัดขึ้น หลายคนมักพลาดตรงที่มือไม่อยู่หลังบอลตอนปัด รวมถึงส่งแรงไม่มากพอทำให้ปัดไม่ไปตามที่ต้องการ บางคนก็ปัดไปทางด้านหน้าหรือลูกถูกปัดไปด้านข้างแบบเฉียงไปด้านหน้าทำให้โดนซ้ำเข้าประตูได้
ยังมีอีกหลายวิธีนะครับ ไว้เรามาดูกันใหม่ในตอนหน้าครับ