การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก รอบ 12 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย กลุ่ม B นัดที่ 7 ที่สนาม ไซตามะ สเตเดี้ยม โดย ทีมชาติไทย ที่มาในชุดสีขาวล้วน บุกไปเยือน ทีมชาติญี่ปุ่น จ่าฝูงมี 13 แต้ม
เริ่มเกมได้ 8 นาที เท่านั้น เจ้าถิ่น ญี่ปุ่น ออกนำไปก่อน 1-0 เมื่อทางด้าน ชินจิ คางาวะ ได้ยิงในกรอบเขตโทษเข้าไปอย่างสวยงาม ถัดมานาทีที่ 19 เจ้าถิ่นขยับได้ประตูที่ 2 เมื่อทางด้าน ยูยะ คูโบะ เปิดบอลให้จากกราบขวาเข้ากรอบเขตโทษให้ ชินจิ โอกาซากิ โหม่งเข้าไป เข้าสู่ครึ่งหลัง ทีมชาติไทย พยายามเปิดเกมบุกมากขึ้น แต่ในนาทีที่ 57 ญี่ปุ่น ได้ประตูทิ้งห่าง 3-0 จากจังหวะยิงด้วยซ้ายเต็มข้อ ตรงกรอบ 18 หลา ของ ยูยะ คูโบะ ช่วงท้ายเกม นาทีที่ 83 ญี่ปุ่น ได้ลูกที่ 4 จากจังหวะลูกเตะมุม และเป็น มายะ โยชิดะ โหม่งเข้าไป ทว่านาทีที่ 84 “ช้างศึก” ชวดตีไข่แตกเมื่อได้จุดโทษ แต่ ธีรศิลป์ แดงดา กัปตัน ซัดไปติดมือประตู เออิจิ คาวาชิม่า ทำให้จบเกม ทีมชาติไทย บุกไปแพ้ ทีมชาติญี่ปุ่น 0-4 หมดโอกาสผ่านเข้ารอบสุดท้าย อย่างเป็นทางการ
“เกมนี้ต้องยอมรับหัวจิตใจของน้องๆน่ะ ว่า เล่นได้ดีเกินคาด ดีแล้วตั้งใจ เราก็มีตัวที่อยากให้แฟนบอลได้เห็นว่า จริงๆแล้วเราพยายามปรับเปลี่ยนหลายๆแบบวิธีการ เราอยากเห็นทุกคนเล่นได้ตามแท็คติกวิธีการที่เราวางไว้ ไม่ว่าใครจะได้ลง หรือไม่ได้ลง เค้าไม่ได้มีความเกี่ยงเลย วันนี้เราจัดค่อนข้างที่จะบาลานซ์ แล้วโดยทั่วไป เราได้เรียนรู้จากทีมชั้นนำของเอเชีย ซึ่งในตรงนี้จะเห็นได้ว่า นักเตะแต่ละคนของเค้ามาจากยุโรป มาถึงปุ๊ป เล่นด้วยแท็คติกที่เหมือนกัน มาถึงปุ๊ป ความสัมพันธ์ เค้าเรียกว่า ไฮคลาส นะครับ ซึ่งต้องยอมรับว่าครึ่งแรก เราเสีย 2 ประตู จากลูกที่เค้าเรียกว่า เค้าขึ้นเกมมา 2 ครั้ง ได้ 2 ประตู เลย มันทำให้เราเป็นงานยากต่อเนื่อง ซึ่งเราก็หวังลึกๆ ถ้าได้มาสัก 1 ลูก ก็จะเป็นเกมที่สนุก แต่ครึ่งหลังต้องยอมรับว่า ไปลูกที่ 3 อีก ลูก 3 ต้องสุดวิสัย เค้าคมจริงๆ นะครับ แต่อยากให้พวกเราเห็นว่า น้องๆทุกคนวิ่งไม่มีหมด จน 90 นาที ทุกคนสู้ แล้วก็ขอบคุณแฟนๆ ที่มาดู บินมาเชียร์ทีมชาติไทย จะเห็นได้ว่า 3,000 คน ไม่น้อยน่ะ ซึ่งบรรยากาศในเวทีเอเชีย เราประทับใจ แล้วก็ขอบคุณแฟนบอลที่อยู่ที่เมืองไทยด้วยนะครับ อยากให้เห็นพัฒนาการของเด็กชุดนี้ เด็กชุดนี้ อายุ 24-25 เอง นะครับ ยังมีเวลาที่จะพัฒนาตัวเอง” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ร่ายยาวหลังจบเกม