แม้ว่าจะผ่านเกมการแข่งขัน ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบ 12 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย นัดที่ 6 ด้วยความผิดหวัง หลังจากที่ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย เปิดบ้านแพ้ให้กับ ซาอุดิอาระเบีย ไปอย่างหมดรูป ด้วยสกอร์ 0-3 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา แต่ถึงอย่างไรก็ตาม พวกเค้ายังต้องเล่นเกมสุดสำคัญ ในการออกไปเยือน ญี่ปุ่น วันที่ 28 มีนาคม นี้
เทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ “ช้างศึก” เป็นรองทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอันดับแรงกิ้งฟีฟ่า ที่เจ้าถิ่นอยู่อันดับ 51 ของโลก ส่วนทีมชาติไทยอยู่อันดับที่ 127 ขณะที่ อันดับตารางคะแนน กลุ่ม B ตอนนี้ ทีมชาติไทย ไม่มีลุ้นแล้ว แข่ง 6 ชนะ 0 เสมอ 1 แพ้ 5 ยิงได้ 3 เสีย 15 อยู่ที่ 6 อันดับสุดท้าย เก็บได้เพียงแต้มเดียว แต่ต้องลงเล่นเพื่อศักดิ์ศรี และเก็บประสบการณ์ต่อไปในการดวลทีมระดับเอเชีย ส่วน ญี่ปุ่น เป้าหมายของพวกเค้าคือการคว้า 3 คะแนน เพื่อเข้าใกล้ตั๋วฟุตบอลโลกที่ รัสเซีย 2018 เพราะตอนนี้ แข่ง 6 ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 1 ยิงได้ 10 เสีย 5 คะแนนเท่ากับจ่าฝูง ซาอุดิอาระเบีย ที่ 13 คะแนน
สถิติที่เปิดเผยจาก ฟีฟ่า ได้มีการระบุว่า ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติญี่ปุ่น นับเกมอย่างเป็นทางการ ทั้งหมด 18 ครั้ง “ช้างศึก” เก็บชัยชนะได้เพียงครั้งเดียว เสมอ 3 และ แพ้ไปทั้งหมด 14 ครั้ง โดย ทีมชาติไทย ยิงได้เพียง 11 ประตู พร้อมทั้งเสียมากถึง 45 ประตู และจากนัดล่าสุด ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ที่ ไทย ได้เล่นในสนามราชมังคลากีฬาสถาน ก็ถูก ญี่ปุ่น บุกมาเอาชนะได้ก่อน ด้วยสกอร์ 2-0 ได้ประตูจาก เกงกิ ฮารากูชิ และ ทาคูเมะ อาซาโนะ เมื่อวันที่ 6 กันยายน ปี 2016 ส่วนอีกหนึ่งสถิติที่น่าสนใจที่จะพูดถึงไม่ได้ สำหรับผู้ที่ทำประตูใส่ ญี่ปุ่น คนล่าสุด แบบสุดงาม ชนิดประทับใจแฟนบอลคือ ธีรเทพ วิโนทัย ที่ยิงใส่ทีม “ซามูไรบลูส์” ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ที่ “ช้างศึก” บุกไปแพ้ 1-4 เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ปี 2008 ซึ่งก็เป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก
แม้ว่าสถิติจะเป็นรองแทบทุกด้าน ในเกมที่จะออกไปเยือน วันที่ 28 มีนาคม นี้ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ทัพนักเตะทั้ง 23 คน รวมไปถึง “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชใหญ่ ที่ขณะนี้ค่อนข้างเสียศรัธทาแฟนฟุตบอลไปพอสมควร ต้องกลับมารวมพลังกันอีกครั้ง เพื่อสร้างสถิติหน้าใหม่ที่ใครหลายคน ก็ต่างคาดหวังเอาไว้ในนัดนี้